สัมผัสมือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ Xiaomi ก่อนใครที่นี่ Xiaomi 12 Series มือถือเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Xiaomi ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ววันนี้ (15 มีนาคม 2565) ซึ่งเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายท่านจับตามองมือถือรุ่นนี้อยู่ ผมเองนั้นโชคดีที่มีโอกาสได้สัมผัส Xiaomi 12 ก่อนวันเปิดตัวเล็กน้อย เพราะทาง Mi Community ส่งเครื่องตัวอย่างมาให้ทดลองใช้ ก่อนที่จะนำมาทำเป็นรีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน วันนี้เรามา Unboxing แกะกล่องรีวิวน้อง Xiaomi 12 ไปพร้อม ๆ กันครับ Xiaomi 12 Series Launch Event แกะกล่อง Xiaomi 12 Xiaomi 12 Series เปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่น คือ Xiaomi 12X, Xiami 12 และ Xiaomi 12 Pro (ในประเทศไทยไม่เปิดตัว Xiaomi 12X) 
Xiaomi 12 Series ทั้ง 3 รุ่น มีหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ต่างกันที่สเปกและขนาด โดย Xiaomi 12X และ Xiami 12 จะมีขนาด เล็กกว่า Xiaomi 12 Pro เป็นมือถือไซส์เล็กตามกระแสความนิยม อิทธิพลจากค่ายผลไม้ และแน่นอนว่าเครื่องตัวอย่างที่ผมได้รับมาแกะกล่องคือ Xiaomi 12 ครับ 
กล่องสีขาวของ Xiaomi 12 กล่องของ Xiaomi 12 ยังยึดถือเอกลักษณ์เดิมจาก Xiaomi 11 ที่ออกแบบโดยใช้กล่องสีขาวล้วน พร้อมกับโลโก้หมายเลข 12 สีทอง เห็นเด่นชัด 
อุปกรณ์ในกล่อง อุปกรณ์มาตรฐานที่แถมมาในกล่อง ประกอบด้วย ตัวเครื่อง Xiaomi 12 ที่ติดฟิลม์กันรอยมาให้แล้ว, หัวชาร์ทเร็ว 67W พร้อมสาย USB type C, เข็มจิ้มถาดซิม และเอกสารต่าง ๆ 
ตัวเครื่องขนาดเหมาะมือ ขนาดตัวเครื่องของ Xiaomi 12 ที่ถูกย่อส่วนลงให้เหมาะมือ กว้างเพียง 69.9 มม. ถูกใจคนที่ชอบพกมือถือใส่กระเป๋าเสื้อหรือกางเกง และชอบใช้มือถือมือเดียวอย่างผมมาก 
เปรียบเทียบขนาดกับรุ่นก่อนหน้า ขนาดของ Xiaomi 12 เมื่อเปรียบเทียบกับ Xiaomi 11T Pro และ Mi Note 10 Design ของ Xiaomi 12 
ออกแบบโดยใช้สัดส่วนทองคำ Xiaomi 12 มีวางจำหน่าย 3 สีคือ สีดำ สีน้ำเงิน และ สีม่วงที่ผมได้มาทดลองแกะกล่องครับ (เครื่องจริงดูเป็นสีชมพูอ่อนไปทางสีเทา) ซึ่งตัวเครื่องออกแบบมาอย่างปราณีตสมเป็นเรือธง มีส่วนโค้งมนตาม ''สัดส่วนทองคำ'' โค้งมนเหมือนกับโลโก้ใหม่ของ Xiaomi ที่ว่ากันว่าเป็นส่วนโค้งที่ดูสวยงามที่สุด 
รองรับ 5G แน่นอน ฝาหลังทำจากโลหะอลูมิเนียมอัลลอย ป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ที่มุมเครื่องมีอักษร Xiaomi 5G 
เรือนกล้องสวยมาก เรือนกล้องออกแบบมาอย่างสวยงามลงตัว เป็นที่อยู่ของเลนส์กล้องตัว 3 ประกอบด้วย กล้องหลัก IMX766 ขนาด 50MP, กล้องอัลตราไวด์ 13MP ที่ให้มุมมองกว้างถึง 123 องศา และกล้องเทเลมาโครระยะ 4 – 7 ซม. ความละเอียด 5MP 
หน้าจอที่คมชัดกว่ารุ่นใด ๆ Xiaomi 12 มาพร้อมหน้าจอโค้ง OLED ขนาด 6.28 นิ้ว (ขนาดพอ ๆ กับ Mi 8) แม้จะเล็ก แต่ก็ถือว่าเป็นจุดขาย เพราะสเปคสูงมาก คือมีอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz ความลึกสี 12-bit แสดงสีได้มากถึง 68 พันล้านเฉดสี ครอบคลุมมาตรฐาน DCI-P3 ที่ได้รับคะแนนระดับ A+ จาก DisplayMate และมีกล้องหน้าแบบ Punch Hole 
ทรงพลังด้วย Harman Kardon ตามภาพคือส่วนบนของตัวเครื่อง มีช่องลำโพง, ไมค์ และอินฟาเรด ลำโพงของ Xiaomi 12 ไม่น้อยหน้าใครเพราะเป็นลำโพงคู่ Stereo แบบ Hi-Res ปรับจูนโดยเจ้าพ่อแห่งวงการเครื่องเสียงอย่าง Harman Kardon เห็นตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ เสียงกระหึ่ม ดังดีมากครับ 
ด้านล่าง ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงตัวที่สอง, พอร์ต Usb Type C, ไมค์ตัวที่สอง และช่องใส่ซิม 
ถาดซิม ถาดซิมใส่ซิมแบบ Nano Sim ได้ 2 ตัว รองรับเครือข่าย 5G แต่ไม่สามารถใส่ Memory Card ได้ครับ 
ปุ่มกดด้านข้าง ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม เปิด/ปิดเครื่อง ส่วนข้างซ้ายไม่มีปุ่มให้กดอะไรครับ 
ปุ่มสแกนนิ้วบนหน้าจอ Xiaomi 12 สแกนนิ้วใต้หน้าจอ เหมือน Xiaomi 11 โดยการสแกนนิ้วสามารถปลดล็อคเครื่องได้แม่นยำและเร็วขึ้นมาก แตะปุ๊บแทบจะปลดล็อคได้ทันทีเลยครับ สเปค XIAOMI 12 
สเปคของ Xiaomi 12
หลังจากได้ทดลองใช้งาน Xiaomi 12 มาสักระยะหนึ่ง ต้องบอกว่าประทับใจมาก #12 สามารถรักษามาตรฐานเรือธงของบริษัทไว้ได้เป็นอย่างดี โดยค่าเริ่มต้นที่ออกมาจากโรงงานคือเป็นระบบ Android 12 พร้อมกับ MIUI 13 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด ช่วยรีดประสิทธิภาพจาก Snapdragon 8 Gen 1 ที่มีความเร็วสูงสุด 3.0GHz ออกมาอย่างเต็มที่ 
MIUI 13 ทั้งนี้เมื่อแกะกล่องออกมา เป็น MIUI 13 เวอร์ชั่น 13.0.3 แต่เมื่อเชื่อมต่อสัญญาณ ผมก็ได้รับอัพเดทเป็น MIUI 13 Global เวอร์ชั่น 13.0.10.0(SLCEUXM) ทันที และเมื่ออัพเดทแล้วก็ใช้งานได้อย่างปกติ 
ดู Netflix จุใจ ด้วยความที่มีจอคมชัด สีสัน 12-bit กับระบบเสียง Hi-Res จาก Harman Kardon สิ่งแรกที่ต้องทดลองคือดูหนังจาก Netflix ซึ่ง Xiaomi 12 ก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ ได้มาตรฐาน Winevine ระดับ L1 ความคมชัดสูงสุด รองรับ HDR10-HEVC และ Dolby Vision 
เล่นเกมได้สบาย การเล่นเกมบน Xiaomi 12 ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีซีพียูระดับ Top ของวงการมือถือ Snapdragon 8 Gen 1 ช่วยให้เล่นเกมได้ทุกเกมที่ความละเอียดสูงสุด 
ความร้อนขณะใช้งาน ความร้อนในขณะเล่นเกม คือสิ่งที่หลาย ๆ คนกังวล และเท่าที่ได้ลองเล่นในอุณหภูมิห้องปกติ ความร้อนของแบตเตอรี่ จะสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 10 องศา ไม่มีปัญหาใด ๆ ยิ่งถ้าเล่นเกมในห้องแอร์ยิ่งสบายใจได้ แต่ถ้าเล่นกลางแจ้ง ท่ามกลางอากาศร้อน อุณหภูมิอาจสูงขึ้นถึง 20 องศา ด้วยความที่ตัวเครื่องของ Xiaomi 12 เป็นโลหะ ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมาได้ง่าย แม้จะยังเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุดก็ตาม ตามภาพที่แสดงคือช่วงอุณหภูมิ ปกติ, เล่นเกมที่อุณภูมิห้อง และเล่นเกมกลางแจ้งครับ 
ผลคะแนน Geekbench ลองทดสอบประสิทธิภาพ Bechmark ด้วยแอป Geekbench ปรากฎว่ามีผลคะแนนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเรือธงยี่ห้อดัง ๆ โดย Xiaomi 12 มีผลคะแนน Single Core ที่ 1211 คะแนน และมีผลคะแนน Multicore ที่ 3421 คะแนน 
ผลคะแนน Antutu คราวนี้ลองทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปชื่อดังอย่าง Antutu v.9 ปรากฎว่า Xiaomi 12 ของเรา สามารถทำคะแนนได้สูงเป็นอันดับที่ 6 ของจักรวาลมือถือ โดยมีคะแนนอยู่ที่ 887,395 คะแนนครับ ถือว่าไม่ขี้เหร่เมื่อเทียบกับรุ่นและราคา ของมือถือรุ่นที่มีคะแนนสูงกว่า 
การตั้งค่ากล้องเพิ่มมาใหม่ มาถึงเรื่องกล้อง ที่นับว่าเป็นตัวชูโรงอีกอย่างหนึ่งของ Xiaomi 12 ที่ใช้ Motto ว่า ''Master every scene'' มีจุดเด่นที่ระบบการโฟกัสระดับโปร ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่าง Xiaomi 12 กับ Xiaomi 12X เพราะ Xiaomi 12 มีหน่วยประมวลผล AI และชิป ISP ที่เหนือกว่า ทำให้มีระบบ ''Xiaomi ProFocus'' ที่บริษัทพัฒนาขึ้น เมื่อดูในหน้าการตั้งค่ากล้อง จะพบเมนูใหม่ ๆ อย่าง จับภาพเคลื่อนไหว โฟกัสตรวจจับการเคลื่อนไหว โฟกัสตรวจจับดวงตา ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งทำให้ Xiaomi 12 สามารถติดตามสิ่งที่เราต้องการถ่ายภาพได้ แม้เป้าหมายกำลังเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม งานนี้ต้องยอมรับว่า AI กล้องของ Xiaomi 12 เหนือกว่ามือถือทุกรุ่นของค่ายค่อนข้างมากเลยทีเดียว นับเป็นย่างก้าวการพัฒนาที่น่าสนใจยิ่ง ทั้งนี้การรีวิวภาพถ่าย ขออุบเอาไว้ก่อนและเชื่อว่าทีม Mi Photographer พร้อมที่จะนำภาพจาก Xiaomi 12 มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ร้องว้าว แน่นอนครับ สรุป Xiaomi 12 
ข้อดีของ Xiaomi 12 Xiaomi 12 ยังคงรักษาภาพลักษณ์ของความหรูหรา ความสวยงาม และประสิทธิภาพตามแบบฉบับมือถือเรือธงของบริษัท ไว้เป็นอย่างดี ข้อดี อย่างแรกคือกล้องที่มี AI ขึ้นกว่ารุ่นก่อนมาก .ข้อสองคือตัวเครื่องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป พกพาง่าย ใช้งานสะดวก , ข้อสามคือความแรงจากซีพียู Snapdragon 8 Gen 1 และข้อสุดท้ายคือจอภาพที่มีความคมชัดสูงมาก สามารถแสดงเฉดสีได้มากกว่า 68 พันล้านสี ข้อพิจารณา ที่ยังต้องทราบคือ แม้กล้องจะมี AI ที่ดีแต่ก็ยังไม่สุด เพราะไม่มีเลนส์ Telephoto และกล้องเสริมตัวอื่น ๆ อย่าง Ultrawide กับ Telemacro มีความละเอียดไม่มากพอต่อการใช้งานระดับสูง ใครที่เน้นเรื่องกล้องคงต้องลองขยับไปรุ่น Xiaomi 12 Pro ครับ ผมขอจบการ UNBOXING แกะกล่องรีวิว Xiaomi 12 ไว้เพียงเท่านี้ หากเพื่อนๆ มีคำถามหรือต้องการให้ทดสอบส่วนใด ก็คอมเมนต์กันเข้ามาได้เลยนะครับ หากคุณสนใจ Xiaomi 12 
ราคา Xiaomi 12 Xiaomi 12 จะเริ่มวางจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ และใน Mi Store ตั้งแต่ 16 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป โดยช่วงพรีออเดอร์ จะได้รับ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 บาทเป็นของแถม ซึ่งมีวางจำหน่ายในรุ่น และรายละเอียดดังนี้
ทั้งนี้ในช่องทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อได้ตามช่องทางพิเศษดังนี้ (สิทธิ์แรก ๆ มีโอกาสได้รับ Xiaomi TV P1 55นิ้ว ด้วย) บทความที่เกี่ยวข้อง |
In order to fulfill the basic functions of our service, the user hereby agrees to allow Xiaomi to collect, process and use personal information which shall include but not be limited to written threads, pictures, comments, replies in the Xiaomi Community, and relevant data types listed in Xiaomi's Private Policy. By selecting "Agree", you agree to Xiaomi's Private Policy and Content Policy .
Agree
Rate
from app 
Get new
Download on Google Play